

ปัญหาชวนปวดหัวไม่หยุดสำหรับคนรักรถ รถเป็นรอยขูด!! ซึ่งเกิดได้ตลอดเวลา ทั้งจากความไม่ได้ตั้งใจและความไม่ระวังต่างๆ แล้วรถเป็นรอยขูดทำไงดีล่ะ? แก้ไขได้ไหม? ไม่ต้องห่วงไป ในบทความนี้จะมาช่วยคุณไขปัญหา มารู้ลึกกันตั้งแต่สาเหตุ วิธีลบรอยขูดที่รถยนต์ รวมถึงข้อควรระวังต่างๆ อ่านแล้วช่วยแก้ไขปัญหารถเป็นรอยขูดให้ดีขึ้นได้แน่นอน
สาเหตุที่ทำให้รถเป็นรอยขูด
ปัญหารถเกิดรอยขีดข่วนเป็นปัญหาที่ผู้ที่ขับรถหลายๆ คนเป็นต้องพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นรอยขีดเล็กๆ หรือรถเป็นรอยขูดลึกก็ตาม โดยสาเหตุมีหลากหลาย เช่น
- รอยขีดข่วนที่เกิดจากกิ่งไม้ ซึ่งอาจจะเกิดจากการที่ขับรถผ่านพุ่มไม้ หรือต้นไม้ในตรอกแคบ หรือเวลาที่จอดรถตามข้างทางที่มีต้นไม้อยู่ ก็อาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนโดยไม่ได้ตั้งใจได้
- รอยขูดที่เกิดจากการเฉี่ยวกับรถ หรือขอบสิ่งปลูกสร้าง ก็มีบ้างที่ขับตามซอยแคบๆ แล้วมีรถสวนมา แม้จะเบี่ยงหลบแล้ว แต่ก็อาจจะมีขูดโดนกันบ้าง และอาจเผลอไปขูดกับขอบปูนได้ หรืออาจเกิดจากการที่รถคันข้างๆ เปิดประตูมาโดน
- รอยขีดข่วนจากหินที่กระเด็นมา เวลาขับรถในพื้นที่ที่เป็นก้อนกรวดหรือถนนลูกรัง หินก้อนเล็กๆ อาจติดตามซอกล้อรถ เมื่อล้อรถหมุนด้วยความเร็ว หินก็อาจหลุดกระเด็นมาโดนได้ ส่วนใหญ่หินจะกระเด็นมากจากรถที่ขับสวนกันด้วยความเร็วนั่นเอง
- รอยขีดที่เกิดจากความตั้งใจของผู้ที่ไม่ประสงค์ดี จากการโดนกลั่นแกล้ง หรืออาจจะเด็กวัยรุ่นที่เล่นพิเรนทร์ ซึ่งอาจจะใช้วัสดุบางอย่างในการทำให้เกิดรอย เช่น บัตรเครดิต กุณแจ มีด โดยสิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดรอยขีดข่วนขนาดลึกได้
- รอยขีดข่วนจากเล็บของสัตว์ เช่น แมว หนู หรือกระรอก เป็นที่ทราบกันดีว่านิสัยของแมวจะชอบเดินบนสิ่งของทุกอย่าง ไม่เว้นแต่รถ ซึ่งก็อาจทำให้เล็บเผลอขูดกับรถได้
ก่อนซ่อมต้องรู้ ชั้นเคลือบสีรถยนต์มีกี่ชั้น
เมื่อรถได้รับแผลมา รถจะเป็นรอยขูดที่ลึกแตกต่างกันออกไป ซึ่งก่อนที่จะทำการแก้ปัญหารอยขีดข่วนตรงนี้ด้วยตัวเองนั้น จะต้องมาทำความเข้าใจในเรื่องของชั้นเคลือบสีของรถเสียก่อน เพื่อที่จะได้แก้ปัญหาได้ถูกจุด เพราะหากเราแก้ไม่ตรงจุดจะทำให้ปัญหาเล็กกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้
ชั้นของสีเคลือบรถ มีดังนี้
- ชั้นตัวถัง เป็นสีพื้นชั้นแรกของรถ
- ชั้นรองพื้น หรือเรียกอีกอย่างว่า สีโป้ว เป็นชั้นที่มีไว้เพื่อทำให้พื้นผิวเรียบเนียน
- ชั้นสีเคลือบ หรือชั้นสีพื้น ชั้นที่มีไว้เพื่อเตรียมพื้นผิวก่อนที่จะพ่นสีจริง
- ชั้นเคลือบใส หรือสีจริงชั้นนอก เป็นสีที่เราเห็นด้วยตาจากภายนอกตัวรถ
- ชั้นเคลือบบนสุด เคลือบหน้าสี เพื่อให้สีมีความคงทน และเงางาม
รถเป็นรอยขูดทำไง ไปดูกัน
เมื่อรถเกิดรอยขีดข่วน สิ่งแรกที่ควรตรวจสอบ คือ รถเป็นรอยขูดลึกแค่ไหน โดยวิธีตรวจสอบว่ารอยขูดที่รถนั้นลึกหรือไม่ ให้ฉีดน้ำไปที่รอยขีด แล้วสังเกตว่ายังมองเห็นรอยอยู่หรือไม่ หากฉีดน้ำแล้วมองไม่เห็นรอย แสดงว่านั่นเป็นรอยขูดตื้นๆ แต่ถ้ายังมองเห็นรอยอยู่ แปลว่ารอยอาจจะลึกไปถึงชั้นสีเคลือบเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ สำหรับรอยที่ไม่ลึก ยังสามารถลบรอยขีดข่วนด้วยตัวเองได้ง่ายๆ หลากหลายวิธี มีทั้งการใช้ปากกาลบรอยขีดข่วน ใช้น้ำยาขัดสีรถเช็ด ใช้ยาสีฟันเช็ด หรือแม้กระทั่งใช้น้ำยาทาเล็บ ขั้นตอนก็ไม่ยาก แต่อาจต้องอาศัยความระมัดระวังเสียหน่อย ไปดูกันดีกว่าว่าแต่ละวิธีลบรอยขูดที่รถยนต์ทำได้อย่างไรบ้าง
ปากกาลบรอยขีดข่วน
ปากกาลบรอยขีดข่วนสามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป หรือจะสั่งออนไลน์ก็ได้ จะมีสีให้เลือกเพื่อให้ตรงตามสีรถยนต์ของคุณ โดยการทำงานของปากกาลบรอยขีดข่วนนั้นจะช่วยเชื่อมปิดรอยขีดข่วนที่ตัวรถยนต์
- เริ่มจากทำความสะอาดบริเวณที่มีรอยขีดข่วนให้สะอาด กำจัดฝุ่นละอองที่สะสมอยู่ออกให้หมด
- หลังจากทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้องเช็ดให้แห้งเพื่อกันไม่ให้เกิดสนิมตามมาทีหลัง ที่ต้องทำความสะอาดก่อน เพราะจะช่วยให้หมึกปากกาลบรอยขีดข่วนนั้นติดแนบลงไปที่รอยได้ดีขึ้นนั่นเอง
- นำปากกาลบรอยขีดข่วนทาลงไปตรงบริเวณที่มีรอยขูด แล้วรอยก็จะเริ่มจางลง
ซึ่งการใช้ปากกาลบรอยนั้นจะใช้ได้ผลดีกับรอยเล็กๆ ที่ไม่ลึกถึงชั้นสีเคลือบ
ขัดด้วยน้ำยาขัดสีรถ
น้ำยาขัดสีรถเป็นอีกวิธีลบรอยขูดที่รถยนต์ที่ช่วยคืนสภาพรถกลับมาใกล้เคียงแบบเดิมได้ แถมยังเป็นวิธีที่ง่ายและประหยัดอีกด้วย
- เริ่มจากทำความสะอาดรถ และเช็ดให้แห้ง
- หลังจากนั้นใช้น้ำยาขัดสีรถทาลงบนผ้า แล้วเช็ดวนๆ หรือถ้ามีเครื่องมือขัดสีก็จะสะดวกรวดเร็วขึ้นมาหน่อย โดยใครอยากได้เครื่องมือขัดสีมาช่วยทุ่นแรงก็สามารถหาซื้อตามร้านเครื่องมือช่างได้เลย
- ขัดวนรอบๆ บริเวณที่เป็นรอยขีดข่วน จนรอยเริ่มจางลง ถ้ารอยยังไม่หายให้ขัดวนต่อไปเรื่อยๆ
ถ้าหากเป็นรอยที่เกิดขึ้นใหม่ไม่นาน แนะนำให้รีบขัดทันที แต่ถ้าหากเป็นรอยที่เกิดนานแล้วให้ป้ายน้ำยาซ้ำ 2-3 ครั้ง แล้วทิ้งไว้ 2-3 วัน หากเป็นรอยตื้นจะเห็นผลชัดเจน แต่ถ้ารถเป็นรอยขูดลึกลงไปถึงชั้นสีเคลือบ วิธีนี้อาจทำได้แค่ให้รอยจางลงเท่านั้น
ยาสีฟัน
ยาสีฟันก็สามารถแก้ไขรอยขีดข่วนบนรถได้เช่นกัน แนะนำให้ใช้สูตรไวท์เทนนิ่งจะมีประสิทธิภาพในการลดรอยได้ดีเยี่ยม แต่จะใช้ได้ผลแค่กับรอยประมาณขนแมว รอยเล็กๆ ถ้ารถเป็นรอยขูดลึกลงไปอาจจะทำให้จางลงได้แต่จะไม่หายขาด วิธีนี้อาจจะได้ผลได้ไม่ดีเท่าวิธีก่อนหน้า แต่ก็มีข้อดีตรงที่ไม่ค่อยมีความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบเรื่องการทำลายสีรถในส่วนอื่นๆ มากนัก วิธีมีดังนี้
- ล้างรถบริเวณที่เป็นรอยให้สะอาด และเช็ดให้แห้ง
- บีบยาสีฟันลงบนฟองน้ำ หรือผ้านุ่มๆ แล้วทำการเช็ดไปที่รอยขีดเล็กที่รถ ออกแรงขัด โดยขัดแบบวนรอบเบาๆ หลังจากนั้นรอยจะเริ่มจางลง หากเช็ดแล้วไม่ออกให้ทำซ้ำอีกรอบ แต่ไม่ควรเกิน 3 ครั้ง เพราะอาจส่งผลเสียต่อชั้นเคลือบสีรถได้
- เมื่อเช็ดตรงจุดที่เป็นรอยเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ล้างคราบยาสีฟันบนรถออกด้วยน้ำสะอาด
น้ำยาทาบเล็บ
น้ำยาทาเล็บสามารถทำให้รอยจางลงได้เช่นกัน แถมยังหาซื้อได้ง่าย และราคาไม่แพง แต่ก็เป็นเพียงการแก้ปัญหาชั่วคราวและใช้ได้กับรอยขีดข่วนเล็กๆ เท่านั้น
- ทำความสะอาดบริเวณที่มีรอยขีดข่วน และเช็ดให้แห้ง
- จุ่มน้ำยาทาเล็บ แล้วแต้มลงบนรอบขีดข่วน ให้ใช้น้ำยาทาเล็บแบบใส หรือตามสีของรถยนต์ โดยแต้มในปริมาณที่ไม่เยอะจนเกินไป ขณะทาพยายามอย่าให้โดนบริเวณอื่น
- หลังจากทาเสร็จแล้ว ทิ้งไว้ให้แห้ง ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อน้ำยาซึมลงไป รอยจะเริ่มจางลง
เมื่อรถเป็นรอยขูดลึก ควรทำอย่างไร
วิธีที่กล่าวไปข้างต้นเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลดีกับรอยขีดข่วนแบบเล็กๆ เท่านั้น แต่ถ้ารถเป็นรอยขูดลึกอาจจะต้องเข้าอู่ หรือถึงขั้นทำสีใหม่ อย่างไรก็ตาม รอยขูดลึกบางจุดสามารถทำสีเฉพาะส่วนได้ และวิธีการทำสีด้วยตัวเองที่บ้านนั้นก็ไม่ยากหากทำให้ถูกวิธี และแน่นอนว่าบทความนี้ก็รวบรวมมาให้แล้ว รีบไปดูขั้นตอนกัน!
เช็ดทำความสะอาดคราบสกปรก
ทำความสะอาดคราบสกปรกที่ตกค้างออกให้หมด โดยเฉพาะบริเวณที่เกิดรอย และต้องเช็ดให้แห้งเสมอ หากไม่ทำความสะอาดให้เรียบร้อย เมื่อเราเช็ดฝุ่นนั้น อาจทำให้เกิดรอยใหม่ขึ้นมาได้
ใช้กระดาษทรายขัด
ในขั้นตอนนี้จะแยกเป็นรถยนต์ที่เคยผ่านการทำสีมาแล้ว และรถที่ยังไม่เคยผ่านการทำสีมาก่อน
- รถที่ไม่เคยผ่านการทำสีมาก่อน: ส่วนใหญ่จะมีพื้นผิวที่เรียบเนียนอยู่แล้ว แต่ก็ควรทำความสะอาดออกก่อนด้วยผงซักฟอก แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด เช็ดให้แห้ง หลังจากนั้นให้ใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียดสุดขัดให้เรียบเนียนขึ้น
- รถที่เคยผ่านการทำสีแล้ว: ทำความสะอาดด้วยสบู่หรือผงซักฟอกให้สะอาด ล้างด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้ง หากต้องการพ่นสีทับสีเก่า ให้ใช้กระดาษทรายขัดปรับพื้นผิวก่อน แต่ไม่ต้องขัดถึงชั้นรอยต่อ และไม่ควรขัดลึกจนเกินไป ส่วนผู้ที่ต้องการพ่นเฉพาะจุดที่เป็นรอยขูด หรือต้องการพ่นซ่อม ให้ใช้กระดาษทรายขัดกว้างจากรอยเดิม 5-10 เซนติเมตร เพื่อเตรียมพ่นงานใหม่
ใช้หนังสีพิมพ์ หรือกระดาษ ปิดส่วนที่ไม่ต้องการให้โดนสี
ใช้หนังสือพิมพ์ หรือกระดาษ ปิดส่วนที่ไม่ได้ต้องการจะพ่นสี เพื่อป้องกันไม่ให้เลอะเทอะ แล้วเป็นตัวช่วยในการเก็บงานให้เรียบร้อยสวยงามได้ดีอีกด้วย
พ่นสี
ก่อนพ่นสี ให้พ่นสีรองพื้นก่อน เพื่อให้เนื้อสีติดทนทานมากขึ้น ช่วยกลบสี ปิดงานได้เนียน นอกจากนั้น สีทารองพื้นในปัจจุบันก็มีสูตรกันสนิมด้วยนะ เรียกว่าป้องกันสนิมได้ไปในตัวด้วย
หลังจากพ่นสีรองพื้นแล้ว ให้พ่นสี 2k ในบริเวณรอยขูดไปในแนวเดียวกัน ประมาณ 2-3 ครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้งให้รอเว้นช่วงห่างกันประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วค่อยทำซ้ำอีกรอบ โดยสามารถใช้ไดร์เป่าผมเพื่อให้สีแห้งเร็วขึ้นได้
พ่นแลกเกอร์ทับอีกรอบ
เมื่อพ่นสีทิ้งไว้แล้ว 30 นาที ให้ลงแลกเกอร์ทับ เพื่อเพิ่มความเงางาม และความทนทานของสี เท่านี้ก็จะดูสวยเหมือนได้รถคันใหม่
คงจะพอเห็นภาพแล้วใช่ไหมว่าถ้ารถเป็นรอยขูดจะทำไงดี? แน่นอนว่าเมื่อใช้รถก็ต้องมีบ้างที่จะมีรอยขีดข่วนเกิดขึ้นมากวนใจ แม้ว่าจะระวังมากแล้วก็ตาม ซึ่งถ้าหากเป็นรอยขีดข่วนขนาดเล็กสามารถแก้ไขด้วยตัวเองได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้ปากกาลบรอยขีดข่วน น้ำยาขัดสีรถ ยาสีฟัน หรือน้ำยาทาเล็บ หรือถ้ารถเป็นรอยขูดลึก กรณีร้ายแรงที่สุดคืออาจจะต้องเข้าอู่ทำสีใหม่ทั้งหมด แต่หากเป็นรอยไม่กี่จุด ก็สามารถทำสีเฉพาะจุดได้ด้วยตัวเอง เท่านี้รถคู่ใจก็จะสวยงามต่อไป!