

มาสด้าเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับจากเหล่าผู้ใช้งานทั่วโลก ซึ่งมาสด้ามีจุดเริ่มต้นมาจากเมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 1920 ภายใต้ชื่อบริษัทโตโย โคเกียวที่เริ่มต้นผลิตจุกไม้ก๊อก ก่อนจะมาเป็นบริษัทมาสด้าที่เริ่มผลิตรถยนต์ขึ้นในปี 1931 ภายใต้แนวคิดโคโดะที่ต้องการให้ดีไซน์ของรถยนต์มีความสวยงาม แข็งแรง และทรงพลัง ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความรวดเร็วและน่าเกรงขาม จึงทำให้หลายๆ คนหันมาเลือกใช้รถยนต์ทั้งมาสด้ามือหนึ่งและมาสด้ามือสองกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากประสิทธิภาพเครื่องยนต์ที่ดี รวมถึงช่วงล่างที่แข็งแรงอันเป็นจุดเด่นของรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นยี่ห้อนี้นั่นเอง
มาสด้า 2
สำหรับใครที่ต้องการรถยนต์คุณภาพดีในราคาสบายกระเป๋า มาสด้ามือสองถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ยิ่งเป็นมาสด้า 2 ที่มีความโดดเด่นในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมตามแนวคิด Kodo สำหรับมาสด้า 2 จะมีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบคือ เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G 4 สูบ ขนาด 1.3 ลิตร ความจุ 1,299 ซีซี และเครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ความจุ 1,499 ซีซี โดยจะมีความโดดเด่นด้วยคุณสมบัติต่างๆ ดังนี้
- ระบบ i-Activsense ทำงานร่วมกับระบบเซ็นเซอร์ ระบบเรดาร์ และกล้อง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในขณะขับขี่และเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ระบบ Mazda Radar Cruise Control ช่วยควบคุมความเร็วคงที่ และจะปรับลดความเร็วอัตโนมัติเมื่อพบว่ารถคันหน้ามีความเร็วน้อยกว่า
- ปุ่ม Sport Paddle Shift ช่วยควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
- ปุ่มควบคุม Center Commander ที่ช่วยควบคุมและสั่งการหน้าจอของ Center display ได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยมากขึ้น
- แท่นชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless charger) ที่ช่วยรองรับระบบ Apple CarPlay และ Android Auto บนเครื่องสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายๆ
- เบาะไฟฟ้าปรับได้ 6 ทิศทางพร้อมระบบบันทึกตำแหน่งของคนขับได้ถึง 2 ตำแหน่ง
นอกจากคุณสมบัติหลักของมาสด้า 2 ที่ออกแบบมาเพื่อผู้ขับขี่แล้ว ยังมีให้เลือกทั้งแบบ Sedan ที่ให้ลุคสปอร์ต ดูโฉบเฉี่ยวและหรูหราอย่างมีระดับ เหมาะสำหรับคนชอบรถโมเดิร์นสวยๆ ดีไซน์สุดล้ำ หรือแบบ Hatchback 5 ประตู ตอบโจทย์การใช้งานแบบอเนกประสงค์ ทั้งด้านการเดินทางหรือบรรจุสิ่งของต่างๆ ไว้ในรถคันเดียวได้อยู่หมัด
มาสด้า 3
มาสด้าเป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์คุณภาพสูงที่มีการพัฒนาดีไซน์และสมรรถนะเครื่องยนต์ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานอยู่เสมอ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมาสด้ามือหนึ่งและมาสด้ามือสองถึงได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในรุ่นมาสด้า 3 ที่ยังคงสานต่อแนวคิดโคโดะที่แสดงความเรียบง่ายแต่สวยงาม ตอบโจทย์การใช้งาน ทั้งด้านการขับขี่และดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นไม่ซ้ำใคร มาพร้อมกับเครื่องยนต์และตัวถังที่ใหญ่จากเดิม แต่ประหยัดพลังงานมากขึ้นเมื่อเทียบกับมาสด้า 2 โดยจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 1,998 ซีซี ที่มีให้เลือกถึง 3 รุ่นย่อย คือ รุ่น 2.0 C รุ่น 2.0 S ที่เพิ่มปุ่ม Sports paddle shift เข้ามา และรุ่น 2.0 SP ที่มาพร้อมหลังคา Sunroof รวมถึงระบบเสียง Bose แบบรอบทิศทางด้วยตำแหน่งลำโพงถึง 12 จุด โดยทั้ง 3 รุ่นนี้ยังมาพร้อมจุดเด่นหลัก ดังนี้
- ระบบ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) สำหรับควบคุมระบบเบรกได้ง่าย ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในตอนเข้าโค้งหรือออกจากโค้ง
- ระบบเบรก Auto hold ช่วยให้รถยนต์หยุดนิ่งเมื่อจอดรถบนถนน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในขณะขับขี่ได้เป็นอย่างดี
- ระบบ Adaptive Front-Lighting System (AFS) ปรับไฟหน้าตามทิศทางการเลี้ยวรถแบบอัตโนมัติ
- ระบบ Advanced Blind Spot Monitoring (ABSM) ช่วยเตือนผู้ขับขี่เมื่อต้องการเปลี่ยนเลน โดยจะมีเรดาร์ตรวจจับการเคลื่อนที่ของรถในเลนข้างหรือจุดอับสายตา
- ระบบ Rear Cross Traffic Alert (RCTA) ช่วยเตือนขณะถอยรถในรูปแบบเสียงและไฟกระพริบ
- เบาะไฟฟ้าปรับได้ 10 ทิศทางพร้อมระบบบันทึกตำแหน่งของคนขับได้ถึง 2 ตำแหน่ง
- ปุ่มควบคุม Center Commander ที่ช่วยควบคุมและสั่งการหน้าจอของ Center Display ขนาด 8.8 นิ้วได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยมากขึ้น
- แท่นชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless charger) ที่ช่วยรองรับระบบ Apple CarPlay และ Android Auto บนเครื่องสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายๆ
- เกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive 6 สปีด ตอบสนองต่ออัตราการเร่งหรือการเปลี่ยนเกียร์ได้ดี
ด้วยสเปคของมาสด้า 3 ที่เปลี่ยนไปจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และฟังก์ชันอัจฉริยะต่างๆ จึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้ดียิ่งขึ้น โดยมีรุ่น Sedan 4 ประตู ที่ให้ความสปอร์ตหรือ Fastback 5 ประตูที่ให้ความพรีเมี่ยม เหมาะสำหรับการขับขี่ในทุกๆ วัน
มาสด้า CX
ย้อนกลับไปตั้งแต่จุดเริ่มต้นในการผลิตรถยนต์ Mazda ยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ จนมาถึงรุ่น Madza CX หรือ Crossover ซึ่งเป็นรถยนต์เอนกประสงค์สไตล์ SUV ที่ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน รวมถึงความปลอดภัยขณะขับขี่ภายใต้แนวคิดโคโดะที่สามารถสัมผัสได้ในทุกจุด ตั้งแต่วัสดุที่ใช้จนไปถึงสมรรถภาพเครื่องชั้นอันเหนือชั้น จนเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่หลายคนถามหากัน ทั้งมาสด้า CX มือหนึ่งและมาสด้าCXมือสอง ปัจจุบันซีรีส์ Mazda CX มีทั้งหมด 7 รุ่น ได้แก่ CX3, CX5, CX-8, CX-30 รวมถึง CX-4, CX-7, CX-9 ที่เป็นรุ่นพิเศษทำขายในต่างประเทศ โดยแต่ละรุ่นจะมีสเปคอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย
มาสด้า CX-3
เติมเต็มความสุขในทุกช่วงเวลาขับขี่กับ Mazda CX-3 ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ทั้งในด้านการออกแบบและสมรรถนะเครื่องยนต์แบบเหนือชั้นมากขึ้น สอดคล้องกับแนวคิดจินบะ อิไต ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานรถยนต์ได้คล่องแคล่วและเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นคือ รุ่น Base รุ่น Base plus และรุ่น Comfort ที่มาพร้อมคุณสมบัติอันโดดเด่น ดังนี้
- เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G 2.0 ลิตร ขนาด 1,988 ซีซี ที่ให้การตอบสนองขณะขับขี่ได้ดี ทั้งยังประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- ระบบ Advanced Blind Spot Monitoring (ABSM) ช่วยเตือนผู้ขับขี่เมื่อต้องการเปลี่ยนเลน โดยจะมีเรดาร์ตรวจจับการเคลื่อนที่ของรถในเลนข้างหรือจุดอับสายตา
- ระบบ Rear Cross Traffic Alert (RCTA) ช่วยเตือนขณะถอยรถในรูปแบบเสียงและไฟกระพริบ
- แผงคอนโซลแสนอัจฉริยะที่ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด Human-Machine Interface (HMI) เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้งานละสายตาขณะขับขี่
- ระบบ Mazda Connect เพื่อเชื่อมต่อระหว่างสมาร์ทโฟนกับ Mazda Active Driving Display สำหรับรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมที่ชา์จแบบไร้สายไว้ใช้งาน
- เบาะไฟฟ้าปรับได้ 6 ทิศทางยกเว้นรุ่น Comfort 8 ทิศทางพร้อมระบบบันทึกตำแหน่งของคนขับได้ถึง 2 ตำแหน่ง
มาสด้า CX-5
รถยนต์ Mazda CX-5 เป็นหนึ่งในรุ่นที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากประสิทธิภาพเครื่องยนต์ที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม แต่ยังคงความเรียบหรูและความละเอียดอ่อนในงานฝีมือตามแบบฉบับญี่ปุ่นได้อย่างครบถ้วนตามแนวคิด Hand-Crafted Design นำสรรวัสดุพรีเมี่ยมมาใช้ในการสร้างสรรค์ จนทำให้ Mazda Cx-5 ตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมาพร้อมกับคุณสมบัติและจุดเด่นที่น่าสนใจ จนต้องตาต้องใจคอมาสด้ามือสองไม่แพ้รุ่นไหน ดังนี้
- ระบบเครื่องยนต์เบนซินที่มีให้เลือกถึง 3 แบบ ได้แก่ Skyactiv G 2.0, Skyactiv D 2.2, Skyactiv G 2.5T ที่ให้ตอบสนองอัตราเร่งความเร็วและการเปลี่ยนเกียร์ที่แตกต่างกันสมรรถนะแต่ละเครื่องยนต์
- ระบบ Skyactiv-Vehicle Dynamics ที่ช่วยให้รถยนต์และช่วงล่างเครื่องยนต์ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้รู้สึกขับขี่สบายและปลอดภัยกว่าเดิม
- ระบบ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ที่ช่วยควบคุมการขับขี่และเบรกได้ง่ายมากขึ้น
- ระบบ i-Activsense ที่ได้รับการออกแบบให้ควบคุมรถบนเลนถนนได้อย่างปลอดภัยด้วยสัญญาณเตือนและเซ็นเซอร์ตรวจจับรอบทิศทาง
- ระบบ Advanced City Brake Support (Advanced SCBS) ที่จะบังคับให้รถเบรกอัตโนมัติเมื่อจับสัญญาณอันตรายต่างๆ เช่น รถกำลังจะชนกัน เป็นต้น
มาสด้า CX-4
หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบซีรีส์ Mazda CX แต่อยากได้ดีไซน์ที่ดูสปอร์ตมากขึ้น มาสด้า CX-4 อาจเป็นคำตอบที่ใช่ เนื่องจากเป็นรุ่นรถที่มีการปรับโฉมใหม่ไปจากเดิม สังเกตได้จากรูปทรงไฟหน้าที่ดูเรียวยิ่งขึ้น พร้อมกระจังหน้ารถที่ให้ความโมเดิร์นมากขึ้น ที่สำคัญในด้านการใช้งานก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรถรุ่นดังกล่าวจะมีการผลิตขายเฉพาะประเทศจีนเท่านั้น จึงทำให้ราคามาสด้ามือหนึ่งและมาสด้ามือสองในรุ่น CX-4 มีราคาสูง ทั้งนี้ สามารถใช้วิธีการลงทะเบียนทำรถจดประกอบเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายได้เช่นกัน โดยรถรุ่นนี้จะมีจุดเด่นและคุณสมบัติหลักๆ ดังนี้้
- ตัวถังเบนซิน 4 สูบ ขนาด 2,000 ซีซี ช่วยเสริมความเร็วในการขับขี่
- เครื่องยนต์ Skyactiv เสริมการทำงานของเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นกว่าเดิม
- ระบบ Anti Lock Brake System (ABS) ที่ช่วยป้องกันเบรกล้อล็อคเพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่
- แผงหน้าจอ Mazda Display สำหรับรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
มาสด้า CX-8
มาสด้า CX-8 เป็นรถที่ยังคงสืบสานแนวคิดโคโดะเพื่อให้ได้รถยนต์คุณภาพสูง โดดเด่นด้วยฟังก์ชันการใช้งานและการออกแบบที่ให้ความละเอียดสวยงาม แสดงให้เห็นถึงความประณีตและสะท้อนถึงเอกลักษณ์อันโดดเด่นของตัวรถ นอกจากนั้น มาสด้า CX-8 ยังเป็นรถที่นั่ง 3 แถวที่มีให้เลือกระหว่าง 6 ที่นั่งและ 7 ที่นั่งอีกด้วย ทั้งยังมาพร้อมกับขนาดภายในที่กว้าง เหมาะกับการใช้งานในทุกสถานการณ์อย่างยิ่ง พร้อมสเปคเครื่องอันโดดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้
- ระบบเครื่องยนต์ 2 แบบให้เลือกคือ Skyactiv-D 2.2 และ Skyactiv-G 2.5 ที่ทำให้การเผาไหม้ของรถยนต์ทำได้ดีกว่าเดิม ซึ่งส่งผลดีต่อระบบเครื่องยนต์และเกียร์
- ระบบเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv 6 สปีด เสริมสมรรถนะเครื่องยนต์ให้แรงและเร็วกว่าเดิม รวมถึงยังช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้นอีกด้วย
- ระบบ Mazda Connect เพื่อการต่อระหว่างสมาร์ทโฟนกับ Apple CarPlay และ Android Auto ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับแท่นชาร์จแบบไร้สาย
- ระบบ Advanced City Brake Support (Advanced SCBS) ที่จะบังคับให้รถเบรกอัตโนมัติเมื่อจับสัญญาณอันตรายต่างๆ ได้
มาสด้า CX-30
เติมเต็มการใช้ชีวิตให้สมบูรณ์แบบมากขึ้นด้วยมาสด้า CX-30 ที่ครบครันด้วยเทคโนโลยีสุดทันสมัย ยกระดับประสบการณ์ใช้งานและเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทำให้หลายคนต้องตารถรุ่นนี้ และต่างเลือกซื้อกันทั้งรถมาสด้ามือหนึ่งและมาสด้ามือสอง มาลองดูกันว่ามาสด้า CX-30 จะมีจุดเด่นอะไรกันบ้าง
- ระบบ Cruising & Traffic Support ช่วยควบคุมความเร็วให้สอดคล้องกับรถคันหน้า เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
- ปุ่มควบคุม Center Commander ที่ช่วยควบคุมและสั่งการหน้าจอของ Center Display และรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมที่ชา์จแบบไร้สายไว้ใช้งาน
- ระบบ i-STOP ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน โดยจะหยุดการทำงานของรถยนต์แบบอัตโนมัติเมื่อรถหยุดจอดชั่วคราวหรือติดไฟแดง
- ระบบ Advanced City Brake Support (Advanced SCBS) ที่จะบังคับให้รถเบรกอัตโนมัติเมื่อจับสัญญาณอันตรายต่างๆ ได้
- ระบบ Skyactiv-Vehicle Dynamics ที่ช่วยให้รถยนต์และช่วงล่างเครื่องยนต์ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้รู้สึกขับขี่สบายและปลอดภัยกว่าเดิม
- ระบบเซ็นเซอร์ด้านหน้าและด้านหลังอย่างละ 4 จุด พร้อมจอแสดงภาพรอบทิศทางแบบ 360 องศา
- ระบบ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ที่ช่วยควบคุมการขับขี่และเบรกได้ง่ายมากขึ้น
- ระบบ Infotainment เพื่อความบันเทิงขณะขับขี่ เสริมด้วยลำโพงรอบทิศทาง และสามารถสั่งการด้วยเสียงได้
- ปุ่ม Sports Paddle Shift ช่วยปรับเกียร์ได้อย่างว่องไว
มาสด้า CX-7
มาสด้า CX-7 เป็นรถนำเข้าในอดีตอีกหนึ่งรุ่นที่ยังมีดีไซน์สวยงามลงตัวและดูคลาสสิกอยู่เสมอ จึงทำให้มาสด้ามือสองรุ่นนี้เป็นที่ต้องการในตลาดซื้อขายรถยนต์สูง โดยมาสด้า CX-7 ได้ออกแบบให้ภายในที่นั่งโดยสารดูกว้างขวาง จึงขับขี่สบายถูกใจผู้ใช้งานอย่างยิ่ง มาพร้อมจุดเด่นที่น่าสนใจและน่าใช้งานไม่แพ้มาสด้ารุ่นใหม่เลย
- เครื่องยนต์เทอร์โบ 4 สูบเรียง ช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานของรถยนต์ดียิ่งขึ้น
- ระบบ Child Safety Rear Door Locks เพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็ก
- ระบบ Anti Lock Brake System (ABS) ที่ช่วยป้องกันเบรกล้อล็อคเพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่
- ระบบ Immobilizer ที่ให้ใช้งานรถยนต์คันนั้นได้ด้วยกุญแจอัจฉริยะที่มีรหัสเฉพาะตัว
- ระบบ Audio-CD Player ทำให้สามารถใช้งานแผ่นซีดีเพลงในอดีตได้
- เบาะที่นั่งแบบ Lumbar Support Adjustment สำหรับปรับระดับที่นั่งให้โอบรับกับส่วนหลังของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี
มาสด้า CX-9
เดินทางมาถึงรถยนต์เอนกประสงค์ที่ได้การพูดถึงเป็นอย่างมากกับมาสด้า CX-9 ซึ่งเป็นรถ SUV ขนาดกลางที่ถูกออกแบบให้หน้าตาออกมาสวยงาม ดูเรียบหรู ตามแนวคิดโคโดะ สังเกตได้จากดีไซน์ของไฟรถยนต์ กระจังหน้า หรือแม้แต่ล้อยางที่แฝงความสปอร์ตโมเดิร์นได้อย่างลงตัว รวมไปถึงสเปคเครื่องยนต์และฟังก์ชันสุดล้ำ อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้รถรุ่นดังกล่าวจะถูกวางขายเฉพาะในต่างประเทศ อาจทำให้การหาซื้อรถมาสด้า CX-9 ทั้งมาสด้ามือหนึ่งและมาสด้ามือสองเป็นเรื่องค่อนข้างยากนั่นเอง ซึ่งรถรุ่นนี้มาพร้อมกับคุณสมบัติที่น่าสนใจ ดังนี้
- เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 4 สูบ สะท้อนสมรรถนะความเร็วอย่างเหนือชั้น
- ระบบ i-STOP ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน โดยจะหยุดการทำงานของรถยนต์แบบอัตโนมัติเมื่อรถหยุดจอดชั่วคราวหรือติดไฟแดง
- ระบบ i-Activsense ที่มีระบบเซ็นเซอร์คอยแจ้งเตือนเสริมความปลอดภัยในขณะขับขี่
- ระบบเครื่องยนต์ Skyactiv พร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีดเพื่อการขับขี่และควบคุมอัตราการเร่งรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระบบ Infotainment เพื่อความบันเทิงขณะขับขี่ เสริมด้วยเครื่องเสียงคุณภาพสูงที่สามารถใช้งานผ่าน Mazda Connect ได้
- ระบบ Cruise Control สำหรับควบคุมความเร็วอัตโนมัติโดยไม่ต้องเร่งเครื่องยนต์
- ปุ่ม Sport Paddle Shift ช่วยควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
มาสด้า BT-50
นอกจากมาสด้ารุ่นอื่นอย่างซีรีส์ 2, 3, หรือ CX แล้ว มาสด้า BT 50 ก็เป็นรุ่นที่ถูกพูดถึงไม่น้อยเหมือนกัน ทั้งจากผู้ที่สนใจหรือกำลังมองหารถมาสด้ามือหนึ่งหรือมาสด้ามือสอง เนื่องจากเป็นรถปิกอัพที่ยังคงรักษาความเป็นโคโดะไว้อย่างครบถ้วน ภายใต้แนวคิด Less is More เน้นความเรียบง่ายแต่โดดเด่นด้วยฟังก์ชันการใช้งานอย่างครบถ้วนรวมไปในรุ่นเดียว พร้อมกับสมมรถนะเครื่องยนต์และช่วงล่างสุดแกร่ง ตอบโจทย์ทุกการเดินทางได้เป็นอย่างดี โดยมาสด้า BT 50 จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบคือ Standard Cab, Freestyle Cab, และ Double Cab นั่นเอง
Standard Cab
ใครที่กำลังมองหารถกระบะคุณภาพดี เน้นการใช้งาน เช่น บรรทุกของหนัก หรือเพื่อใช้สอยอื่นๆ มาสด้า BT-50 เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ขอแนะนำให้รู้จัก เนื่องจากสมรรถนะเครื่องยนต์และดีไซน์เรียบหรูแต่ยังให้ความรู้สึกแข็งแรงและดุดัน เหมาะสำหรับทุกการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ด้วยลักษณะอันโดดเด่น ดังนี้
- เครื่องยนต์เทอร์โบ 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ซึ่งช่วยระบายความร้อน
- ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พีเนียน ช่วยควบคุมการเลี้ยวและช่วยผ่อนแรง
- ระบบกันสะเทือน ควบคุมน้ำหนักของตัวรถ และช่วยรองรับการสั่นสะเทือนขณะอยู่บนท้องถนน
- ระบบ Infotainment เชื่อมต่อระบบเครื่องเสียงและรองรับระบบ Apple CarPlay และ Android Auto
- ระบบ Anti lock Brake System (ABS) ที่ช่วยป้องกันเบรกล้อล็อคเพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่
- ระบบ Emergency Signal System (ESS) แสดงไฟสัญญาณเตือนเมื่อเบรกกระทันหัน
Freestyle Cab
มาสด้า BT-50 รุ่น Freestyle Cab เป็นรถกระบะสี่ประตูที่มีให้เลือกสองแบบคือ ฟรีสไตล์ แค็ป และฟรีสไตล์ แค็ป Hi-Racer ซึ่งเป็นรถปิกอัพแบบยกสูง เหมาะกับทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะท่องเที่ยว เดินทาง หรือทำงานเอนกประสงค์ โดยมีข้อดีและการใช้งานที่น่าสนใจ ดังนี้
- เครื่องยนต์เทอร์โบ 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ซึ่งช่วยระบายความร้อน
- ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พีเนียน ช่วยควบคุมการเลี้ยวและช่วยผ่อนแรง
- ระบบ i-STOP ช่วยประหยัดน้ำมัน
- ระบบ Immobilizer กุญแจนิรภัยอัจฉริยะพร้อมสัญญาณกันขโมย
- ระบบเซ็นเซอร์หน้า 4 จุด หลัง 4 จุด เพื่อการมองเห็นแบบรอบทิศทาง
- ระบบช่วยการออกตัวของรถขณะอยู่บนทางลาดชันสำหรับฟรีสไตล์ แค็ป Hi-Racer
Double Cab
รถกระบะมาสด้า BT 50 Double Cab เป็นกระบะสี่ประตู มีให้เลือกทั้งขนาดดับเบิ้ล แค็ป หรือดับเบิ้ล แค็ป ยกสูง ไว้เป็นทางเลือกในการใช้งาน พร้อมพลังแรงเต็มสมมรถนะเพื่อทุกการเดินทางที่สำคัญของคุณกับจุดเด่นและคุณสมบัติต่างๆ เหล่านี้
- High Tensile Steel ช่วยเสริมรถให้แข็งแรงและลดการสั่นสะเทือน รวมถึงเสียงรบกวนต่างๆ จากภายนอก
- ระบบ Active Safety และ Passive Safety เพื่อป้องกันการเกิดเหตุ
- ระบบ Infotainment พร้อมระบบเสียงรอบทิศทางจากลำโพง 8 ตำแหน่ง ช่วยเพิ่มความสนุกสนานขณะขับขี่
- ไฟหน้ารถแบบ LED Signature เพิ่มความสว่างแม้ขับขี่ในเวลากลางวันหรือกลางคืน
- Electronic Diff-Lock ช่วยเปลี่ยนทิศทางการส่งกำลังของรถ ทั้งการเลี้ยวหรือการเข้าโค้ง
- เบาะไฟฟ้าสำหรับคนนั่งปรับได้ 8 ทิศ
มาสด้า MX-5
เอาใจคนรักความเร็วเมื่อมาสด้าได้นำเสนอรถโรดสเตอร์รุ่นใหม่อย่างมาสด้า MX-5 ที่มาพร้อมกับความสปอร์ตอย่างเต็มเปี่ยม สะท้อนให้เห็นถึงความเรียบง่ายแต่ยังดูหรูหราอยู่ โดยรถรุ่นนี้ยังมีให้เลือกกันถึง 2 แบบคือ เกียร์ออโต้ 6 AT และเกียร์ธรรมดา 6 MT ที่สามารถตอบสนองการใช้งานของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี พร้อมกับฟีเจอร์ต่างๆ ที่ทำให้รถรุ่นนี้พิเศษกว่ารถยนต์รุ่นอื่นๆ จนหลายคนถามหากัน ไม่ว่าจะเป็นมาสด้ามือหนึ่งหรือมาสด้ามือสองในรุ่นนี้
- ระบบเครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.0 แบบ 4 สูบเรียง 16 วาล์ว เสริมอัตราเร่งและการควบคุมอย่างโดดเด่น
- ระบบ i-ACTIVSENSE รุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่
- ระบบ G-Vectoring Control Plus (GVC) และระบบ Kinematic Posture Control (KPC) ที่ทำงานร่วมกันเพื่อการเบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระบบ Mazda Connect เชื่อมต่อระหว่างรถยนต์กับสมาร์ทโฟนเพื่อการใช้งานอย่างสะดวกสบาย
- ระบบ Advanced Blind Spot Monitoring (ABSM) และ Rear Cross Traffic Alert (RCTA) ตรวจจับสัญญาณรถคันอื่นเมื่อเข้ามาอยู่ในระยะของมาสด้า MX-5
- ระบบ Advanced Smart City Brake Support หยุดรถอัตโนมัติเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ
- ฟังก์ชัน Power retractable hardtop หลังคาเปิดประทุน สั่งการด้วยระบบไฟฟ้า
- ไฟหน้ารถยนต์ LED 4 ดวงเพื่อเพิ่มการมองเห็นแม้ในเวลากลางวันหรือกลางคืน
มาสด้าเป็นแบรนด์รถยนต์จากแดนซามูไรแท้ๆ ที่ออกแบบดีไซน์ด้วยแนวคิด Kodo บ่งบอกถึงความเร็ว พละกำลัง และเสน่ห์ นอกจากนี้ รถยนต์มาสด้ายังโดดเด่นเรื่องเครื่องยนต์ และช่วงล่างที่ดี แม้ว่าจะเป็นรถมาสด้ามือสองช่วงล่างก็ยังคงแน่น ยึดเกาะถนนได้เยี่ยม ควบคู่ไปกับความสวยงามและพรีเมียมของรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ใครที่เป็นสาวกแบรนด์นี้ห้ามพลาด เลือกรุ่นที่ตรงใจแล้วเข้าไปจับจองมาสด้ามือสองกันได้เลย